Home |
Love Like the Falling Petals ใบไม้ผลิที่ไม่มีเธอเป็นซากุระ
Love Like the Falling Petals ใบไม้ผลิที่ไม่มีเธอเป็นซากุระ หนังญี่ปุ่นแนวรักดราม่าของ Netflix ที่สร้างจากนิยายขายดี 6 แสนเล่ม กับเรื่องราวสูตรสำเร็จรักหักมุมเรื่องราวตามสูตรของญี่ปุ่นโดยทั่วไป ความยาว 2 ชั่วโมง 9 นาที มีพากย์ไทย
เป็นหนังที่เหมาะกับช่วงเวลานี้จริง ๆ เพราะเป็นช่วงที่สายหนาวค่อย ๆ จางหายไป และดอกไม้กำลังจะผลิบานมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง เช่นเดียวกับ ดอกซากุระที่ญี่ปุ่นก็กำลังจะออกดอกงดงามตระการงานในระยะนี้ นี่จุดเป็นจังหวะที่เหมาะสมที่จะได้ดูหนังรัก “Love Like the Falling Petals” ที่มาพร้อมกับความรักหวาน ๆ ความสัมพันธ์เนิบ ๆ เป็นสไตล์หนังรักดราม่าช้า ๆ แบบญี่ปุ่น รีวิวหนังออนไลน์
Love Like the Falling Petals เป็นเรื่องราวของ ฮารุโตะ อาซะกุระ ตกหลุมรักกับสาวช่างทำผม มิซากิ อาริอะเกะ ตั้งแต่แรกพบ ทำให้เขารวบรวมความกล้า…ที่จะชวนเธอออกเดต แต่ปรากฏว่ากรรไกรได้ตัดฉับเข้าที่ใบหูของเขาในบัดดล! มิซากิมุ่งมั่นตั้งใจที่อยากจะประสบความสำเร็จในอาชีพช่างเสริมสวย แต่ในขณะที่ฮารุโตะที่เกือบจะทิ้งความฝันการเป็นช่างภาพอาชีพไป แต่เธอมาช่วยเติมเต็มและทำให้เขาไขว่คว้าฝันอีกครั้ง แต่ปราฏว่าเธอถูกวินิจฉัยเป็นโรคแก่ก่อนวัยอันควร เพราะอายุและช่วงวัยของเธอจะเร่งสปีดเร็วกว่าคนปกติถึง 10 เท่า
พล็อตเรื่องของ Love Like the Falling Petals จะบอกตรง ๆ ก็คือค่อนข้างเชยและน้ำเน่าสไตล์หนังรักญี่ปุ่น ไม่ต่างกับหนังเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วเลย กับพล็อตง่าย ๆ ที่สร้างสตอรี่ให้พระเอกนางเอกมาเจอกันในสถานการณ์ประหลาด ๆ แบบญี่ปุ่น จากนั้นก็พัฒนาความสัมพันธ์และลากไปถึงปมดราม่าที่ออกจากเหนือจินตนาการไปสักหน่อย ดูโดยรวมแล้วก็ถือว่าไม่มีอะไรที่รู้สึกทำให้ว้าวและสร้างความแปลกใหม่ใด ๆ สุดท้ายก็กลายออกมาเป็นเพียงหนังรักดราม่าธรรมดาเรื่องหนึ่ง ที่ยังไม่ค่อยมีอะไรให้น่าจดจำนัก
ฮารุโตะ (รับบทโดย เคนโตะ นากาจิมะ) ชายหนุ่มที่มีความฝันอยากเป็นช่างภาพ และเชื่อว่าตัวเองมีพรสวรรค์ แต่แล้วเขากลับท้อถอยต่อการทำงานในอาชีพนี้จนหยุดพักไป เขาได้มาเจอกับ มิซากิ (รับบทโดย โฮโนกะ มัตสึโมโตะ) ช่างตัดผมมือใหม่ที่ได้ฮารุโตะมาเป็นลูกค้าคนแรก และเขาก็ตกหลุมรักเธอในทันทีจนกลายมาเป็นลูกค้าประจำที่แอบรักเธออยู่ในใจ แต่วันที่เขารวบรวมความกล้าจะชวนเธอออกเดต กลับกลายเป็นว่ามิซากิเกิดพลาดตัดโดนติ่งหูของเขาไป และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของความผูกพันของทั้งคู่ที่มีปลายทางแสนเศร้ารออยู่
นี่เป็นหนังที่สร้างจากนิยาย “Sakura no Yona Boku no Koibito” ของนักเขียน Keisuke Uyama วางขายครั้งแรก 17 กุมภาพันธ์ 2017 โดยสำนักพิมพ์ Shueisha (บ้านเราไม่มีแปลไทย) และได้รับความนิยมอย่างสูงจนมียอดขาย 6 แสนเล่มเป็นตัวการันตี แล้วก็ถูกนำมาสร้างโดยทุน Netflix ได้ผู้กำกับ โยชิฮิโร่ ฟุกะกาว่า ที่มีผลงานดังหน่อยอย่าง Sagrada Reset (เมืองมหัศจรรย์ คนเปลี่ยนเวลา) เป็นหนังรักดราม่าที่มีเรื่องราวเกี่ยวพลังพิเศษ มาในเรื่องนี้ก็ยังเป็นแนวรักดราม่าที่แม้เรื่องราวอาจจะไม่ได้มีอะไรพิเศษ ดูหนัง
แต่ก็ยังพยายามมีพล็อตที่พลิกเรื่องราวให้ดูพิเศษกว่าหนังรักดราม่าโดยทั่วไปแฝงอยู่เหมือนกัน ซึ่งเนื้อเรื่องจะแบ่งเป็นครึ่งแรกกับครึ่งหลังที่เรียกว่าคนละแนวกันเลย ระหว่างรักใสๆ กับดราม่าเศร้ารันทดตับพัง ซึ่งแทบจะเป็นสูตรสำเร็จของทางญี่ปุ่นที่ขยันทำกันออกมาบ่อยเหลือเกิน
หนังเรื่องนี้ยาว 2 ชั่วโมง 9 นาที ใน 40 นาทีแรกตัวเรื่องจะเป็นแนวรักใสๆ ปนตลกขำๆ กับจุดเริ่มต้นของเรื่องที่พิลึกหน่อยเมื่อนางเอกตัดติ่งหูพระเอกจนขาด แล้วก็ต้องกลายมาเป็นความสัมพันธ์ลึกซึ้งจากอุบัติเหตุในครั้งนั้น ซึ่งตัวพระเอกที่โดนตัดติ่งหูไปเขากลับรู้สึกเหมือนโชคดีที่ทำให้เขาได้ใกล้ชิดไปออกเดตกับเธอได้ เนื้อเรื่องสนุกไปกับการที่ได้เห็นคนเปิ่นๆ
น่ารักสองคนมาเจอกัน เพราะตัวพระเอกเองก็กำลังหลงทางในชีวิตอยู่หลังจากออกจากงานในสตูดิโอถ่ายภาพที่เขาใฝ่ฝันอยากเป็นช่างภาพ กลายมาเป็นคนทำงานทั่วไปใช้ชีวิตไปวันๆ ส่วนนางเอกเป็นช่างตัดผมโก๊ะๆ นิสัยร่างเริงอารมณ์ดีที่เอาจริงๆ ดูหนังออนไลน์
ใครเห็นก็ต้องรัก ไม่แปลกที่พระเอกจะปิ๊งเธอเข้าในวันแรกที่เจอกันทันที ตัวหนังทำให้เราเอนจอยไปกับการพูดคุย การออกเดทของทั้งคู่ที่มีเรื่องน่ารักๆ ปนตลกขำนิดๆ แล้วก็ช่วยผลักดันไฟในการใช้ชีวิตตามฝันของพระเอกให้กลับมาอีกครั้งด้วย นักแสดงทั้งคู่ก็เล่นได้อย่างน่ารักใสๆ มีเสน่ห์มาก ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นรักแรกของทั้งคู่ได้ดี งานภาพสวย ดนตรีประกอบเพราะ เป็นช่วงที่ดูแล้วสนุกมีความสุข จนแอบอินตามไปกับเรื่องมาก ก่อนที่เรื่องราวจะตั้งใจพลิกหักอารมณ์กันทันทีหลังจากผ่าน 40 นาทีแรกของเรื่องไป
ทางด้านการแสดงก็ถือว่าคู่พระนาง “เคนโตะ นากาจิมะ” กับ “โฮโนกะ มัตสึโมโตะ” ทำออกมาได้ดีตามมาตรฐานของทั้งคู่ พวกเขาสามารถประครองเสน่ห์ของตัวละครและบทบาทที่ได้รับเอาไว้ได้อย่างดี เพียงแต่แอบผิดหวังเล็กน้อยที่ในภาพรวมนั้น ความพยายามจะดราม่าในส่วนของการเล่าเรื่องนั้น ไม่สามารถส่งเสริมควบคู่กับไปการแสดงของนักแสดงสักเท่าไหร่ คาแรกเตอร์ยังดูขาด ๆ เกิน ๆ และยังเกิดความห่างเหินระหว่างตัวละครกับผู้ชมเป็นช่องว่างที่เว้นเอาไว้อยู่
หนังตั้งใจตัดอารมณ์ช่วงแรกไปในทันทีเมื่อนางเอกจู่ๆ ก็ป่วยร่างกายทรุดโทรม ซึ่งตัวเรื่องในช่วงแรกมีแอบใบ้ไว้นิดๆ เรื่องผมหงอกของนางเอกที่มีมากกว่าปกติ แต่บทให้นางเอกกลายเป็น “โรคแก่ก่อนวัย” ซึ่งจริงๆ จะแสดงอาการมาต่อเนื่องอย่างรุนแรงมากกว่าในเรื่อง คือเห็นตั้งๆ แต่เด็กๆ เลย แต่ในเรื่องนี้เอามาปรับใหม่เป็นโรค fast forward syndrome
ที่อัตราเร่งแก่ก่อนวัยปุ๊บปั๊บทันทีในเวลาไม่ถึงปี (ตรงนี้เท่าที่ค้นข้อมูลดูไม่พบเจอว่ามีจริง) ตัวเรื่องใช้อาการเร่งของนางเอกตรงนี้มาผูกกับช่วงฤดูใบไม้ผลิที่พระเอกชวนเธอมาดูซากุระในปีต่อๆ มาจากเดทครั้งแรกในความทรงจำ แต่ในปีต่อไปจะไม่มีเธอมาด้วยอีกแล้วตามชื่อเรื่อง แล้วก็ทำให้เรื่องราวกลายเป็นแนวเศร้าหนักหน่วงแบบสุดๆ
แบบชนิดที่ว่าจากที่เราเห็นนางเอกน่ารักๆ ในช่วงแรก ในเวลาต่อมาจะแทบไม่ได้เห็นเธออีกเลย แม้ในรูปร่างที่แก่ลงก็เห็นน้อยมาก เพราะจากนี้ไปแทบทั้งเรื่องเธอจะใส่ฮู้ดปิดคลุมหัวกับเสื้อผ้าปิดคลุมทั้งตัวแม้แต่มือเหี่ยวๆ ก็ยังแทบไม่ได้เห็นเลย แถมยังพยายามใช้มุมกล้องบังตัวนางเอกไว้อยู่เรื่อยๆ ด้วย ซึ่งก็เข้าใจว่าตัวผู้กำกับต้องการสื่อถึงตัวละครที่เป็นโรคนี้ว่าไม่อยากพบเจอหรือให้ใครเห็นร่างกายอีกต่อไป และอีกเหตุผลคือตั้งใจให้คนดูรู้สึกอิมแพ็คสะเทือนใจกับการได้เห็นนางเอกในตอนท้ายด้วย ซึ่งตรงนี้ทำให้บทของเธอต้องหักดิบตัดขาดจากพระเอกในทันทีโดยที่โกหกไม่บอกความจริงกับเขาว่าเธอป่วย จนเขาแทบกลายเป็นคนบ้า ความฝันที่เป็นช่างภาพกำลังดำเนินมาดีๆ ก็แทบล่มสลายหมดไฟในการทำงานลง รวมถึงตัวครอบครัวนางเอกที่มีพี่ชายกับพี่สะใภ้กำลังจะแต่งงานกันก็ต้องมาทนทุกข์ไปกับการพยายามรักษาน้องสาวด้วย จนกลายเป็นความร้าวฉานเพิ่มในครอบครัวของเธอมากขึ้นไปอีก ดูหนัง 4k
ครึ่งหลังเล่นกับความอึดอัดหนักหน่วงที่ถูกใส่เข้ามาแบบถาโถมต่อเนื่องยาวนานไปจนจบเรื่องเลย เหมือนผู้กำกับมั่นใจมากว่าต้องเอากันขนาดนี้เพื่อบีบให้ผู้ชมอินสะเทือนใจไปกับความทรมานของทั้งพระเอกนางเอก ก็อาจจะได้ผลกับคนที่เซนซิทีฟอะไรพวกนี้ง่ายๆ แต่กับผู้ชมที่ไม่เซนซิทีฟหรือเบื่อกับพล็อตจำเจแบบนี้ มันกลายเป็นว่าตัวเรื่องลากยาวจนเกินไปถึงชั่วโมงกว่าเพื่อพยายามทำให้ผู้ชมสะเทือนใจให้ได้ แล้วก็มีตอนจบตบท้ายเบาๆ พอให้รู้สึกว่าไม่ดาร์คจนเกินไปแค่นั้น แต่มันก็ไม่พอที่จะทำให้รู้สึกดีอะไรขึ้นมามากนัก กลายเป็นอารมณ์ในการดูช่วงหลังค่อนข้างน่าเบื่อผิดกับช่วงแรกจนน่าผิดหวังมาก
ภาพรวมนั้น Love Like the Falling Petals ก็เป็นหนังสูตรสำเร็จที่ยังไงก็ขายได้จากญี่ปุ่น เป็นความรักดราม่าเรียกน้ำตา แต่กลับยังไม่สามารถทำให้คนดูน้ำตาไหลได้สักเท่าไหร่ พล็อตเรื่องก็ออกแนวเพ้อ ๆ สไตล์ญี่ปุ่นจ๋า หาความสดใหม่ในหนังเรื่องนี้แทบจะยังไม่เจอ การเล่าเรื่องที่ช้าเนิบและยืดยาดของหนังก็พลอยฉุดอารมณ์ของหนังไปตาม ซ้ำร้ายอาจจะพาทำให้คนดูยังไม่รู้สึกอินไปกับความรักระหว่างคู่พระนางเลยด้วยซ้ำ เพราะช่วงต้น ๆ เล่าเรื่องได้กระชับ แต่ดันมาย้วยตั้งแต่กลางทางเป็นต้นไป
โดยสรุปแล้ว Love Like the Falling Petals ก็คงจะเป็นหนังรักทั่ว ๆ ไป ที่เหมาะกับบรรยากาศช่วงนี้ แต่หนังยังไม่มีอะไรให้เป็นที่น่าจดจำสักเท่าไหร่ เหมือนได้ย้อนกลับไปดูหนังรักญี่ปุ่นเมื่อสัก 10 ปีก่อน พล็อตซ้ำ ๆ ขายดราม่าย้วย ๆ เป็นอะไรที่พอดูได้ฆ่าเวลา และไม่ได้น่าจดจำจนอยากจะหยิบมาเปิดดูซ้ำสักเท่าไหร่
หนังสนุกแค่ช่วงครึ่งแรก ก่อนจะกลายมาเป็นความน่าเบื่อในช่วงหลังที่ลากยาวนานมากไป อาจจะไม่ดีไม่แย่มาก เหมาะกับคนที่ชอบหนังแนวนี้ของญี่ปุ่นมากกว่า ดูหนังออนไลน์ 4k
หนังรักเศร้ารันทดตามสูตรของญี่ปุ่น ครึ่งแรกใสๆ น่ารักครึ่งหลังตับพัง พระเอกนางเอกน่ารัก มีพล็อตพลิกเรื่องให้เศร้าสะเทือนใจอย่างหนัก ซึ่งถ้าคนยังชอบแนวแบบนี้อยู่ก็ดูได้ เพราะเรื่องก็ตั้งใจลากยาวขยี้อารมณ์กันสุดๆ แต่ถ้าไม่ได้เซนซิทีฟมาก หรือเบื่อกับสูตรสำเร็จแบบนี้ของญี่ปุ่นก็ข้ามผ่านได้เลย
จุดเด่น
สูตรหนังรักเศร้าตับพังของญี่ปุ่น
พระเอกนางเอกมีเสน่ห์น่ารัก
ภาพสวยมุมมองดีตามสไตล์ญี่ปุ่น
ดนตรีประกอบเพราะ
มีพากย์ไทย
จุดด้อย
หนังครึ่งหลังลากยาวดราม่ามากเกินไป
ครึ่งหลังแทบไม่ได้เห็นนางเอกเลย