Home |
A Man and A Woman จูบนั้นฉันจำไม่ลืม
ภาพยนตร์รักร้อนแรงของ ‘กงยู’ สามีแห่งชาติที่ขึ้นชื่อว่ามีฉากจูบที่เร้าใจที่สุด และตัวแม่แห่งวงการเลิฟซีน ‘จอนโดยอน’ เจ้าของรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ครั้งที่ 60 (2007) ในบทบาทของ ลีชินแอ จากภาพยนตร์เรื่อง ‘Secret Sunshine’ เรียกได้ว่าการจับคู่นี้มาเจอกันและสวมบทบาทนี้ ก็เป็นอะไรที่ลงตัวที่สุดแล้วนึกถึงคนอื่นไม่ออกเลยจริง ๆ กับภาพยนตร์ ‘รักต้องห้าม’ จนได้เรต R ของเกาหลีเรื่องนี้ รีวิวหนังออนไลน์
ผลงานหนังเกาหลีนำแสดงโดยสามีแห่งชาติ กงยู ประกบกับจอนโดยอน ดัดแปลงมาจากหนังฝรั่งเศสในชื่อเดียวกัน มีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดของตัวละครหลายอย่าง ที่สำคัญคือหนังให้อารมณ์เปลี่ยวเหงามากกว่าจะโรแมนติก!
A Man and A Woman นั้นดัดแปลงมาจากหนังฝรั่งเศสเรื่อง Un homme et une femme ในปี 1966 ซึ่งคว้ารางวัลออสการ์มาสองรางวัลด้วยกันคือสาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมและบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม บอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างพ่อม่ายและแม่ม่ายที่ตกหลุมรัก ซึ่งทั้งสองคนล้วนต้องฝ่าฟันอดีตอันเลวร้ายของตัวเองเพื่อเริ่มต้นความรักครั้งใหม่
สำหรับเวอร์ชั่นเกาหลีนั้นมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดตัวละครที่ตัวเอกทั้งสองคนยังมีครอบครัวเป็นปกติดีโดยกีฮง (กงยู) ได้พบกับซังมิน (จอนโดยอน) ทั้งคู่ได้เดินทางมาส่งลูกๆของตัวเองในแคมป์เด็กพิเศษที่ประเทศฟินแลนด์ ด้วยความเป็นคนชาติเดียวกันกีฮงจึงอาสาให้ซังมินติดรถเพื่อเดินทางกลับ แต่เมื่อหิมะตกหนักจนไม่สามารถเดินทางต่อได้ ทั้งคู่จึงต้องแวะพักโรงแรมระหว่างทาง ด้วยความเปลี่ยวเหงาและอารมณ์ปรารถนาบางอย่างทั้งสองคนจึงมีเซ็กส์กัน ก่อนที่วันรุ่งขึ้นต่างฝ่ายจะแยกจากกันไปใช้ชีวิตของตัวเองโดยที่ทั้งสองไม่รู้กระทั่งชื่อและที่อยู่ของกันและกันด้วยซ้ำไป ดูหนัง
ซังมิน (จอนโดยอน) พาลูกชายมาเข้าแคมป์สำหรับเด็กพิเศษที่ประเทศฟินแลนด์ เธอเป็นห่วงลูกเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ลูกต้องห่างออกจากอก เธอพยายามร้องขอเจ้าหน้าที่เพื่อตามไปดูแลลูกใกล้ ๆ แต่ไม่สำเร็จ เธอจึงตัดสินใจจะนั่งรถไฟตามไปดูลูกอยู่ห่าง ๆ แต่เธอก็บังเอิญได้เจอกับ กีฮง (กงยู) ที่พาลูกสาวมาเข้าแคมป์นี้ด้วยเหมือนกัน สองคนคุยกันไป ๆ มา ๆ กีฮงก็ขับรถพาเธอตามลูกไปที่แคมป์ แต่สุดท้ายซังมินก็ตัดสินใจเดินทางกลับ ประมาณว่าแค่เห็นหลังคาแคมป์แม่ก็พอใจแล้ว โอเค แค่นี้แหละกลับกันเถอะค่ะ
ผู้ชมจะได้เห็นสภาพชีวิตครอบครัวของตัวละครทั้งสอง ไม่ว่าจะเป็นฝั่งกีฮงที่ดูเหมือนเขาจะไม่มีความสุขเมื่อต้องอยู่กับภรรยาของตัวเองสักเท่าไหร่ แม้ว่าจะเขาจะเป็นหัวหน้าครอบครัวที่อบอุ่นเสมอก็ตาม ทางฝั่งซังมินเองลูกชายของเธอที่มีภาวะออทิสติก ทำให้ชีวิตของเธอมีภาระมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว และดูอิดโรยกับชีวิตมากเหลือเกิน
หน้าที่การงานของกีฮงและซังมินจัดได้ว่าทั้งคู่เป็นชนชั้นกลางที่มีอาชีพที่รายได้สูง ฝ่ายชายเป็นสถาปนิก ส่วนฝ่ายหญิงเป็นผู้จัดการแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดัง แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่อาจจะเติมเต็มความสุขในชีวิตของพวกเขาได้เลย เมื่อสบโอกาสกีฮงจึงพยายามหาเวลามาเจอซังมินอยู่เสมอ ที่แม้เขาอาจจะพูดว่าเป็น “ความบังเอิญ” แต่จริงๆแล้วเขาโหยหาและปรารถนาห้วงเวลาแบบที่ทั้งคู่ได้มีกันและกันในฟินแลนด์ฉันใดฉันนั้น ดูหนังออนไลน์
เหตุการณ์ในเรื่องนี้จะไม่มีอะไรเลย ถ้าระหว่างการเดินทางไม่เกิดเรื่องราวที่ทำให้กลับไม่ได้ จนสองคนต้องตัดสินใจพักรอระหว่างทางเพื่อให้สถานการณ์คลี่คลาย เพราะเพียงชั่วข้ามคืนเขาและเธอก็เลยเถิด หักห้ามความต้องการที่เรียกร้องไม่ได้จนซู๊ดซ๊าดกัน ณ สถานที่แห่งนั้น และบอกลากันโดยต่างฝ่ายต่างไม่รู้แม้แต่ชื่อของกันและกัน เหตุการณ์ในวันนั้นควรจะเป็นเพียง One Night Stand ถ้าอีกหลายเดือนต่อมากีฮงไม่พยายามตามหาซังมินจนเจอ และกลายเป็นความสัมพันธ์ต้องห้ามที่ศีลธรรมถูกขังเอาไว้แบบผลุบ ๆ โผล่ ๆ
จะเห็นมามากกับภาพยนตร์แนวเดียวกันนี้ ที่ตัวเอกมีคู่อยู่แล้วแต่กลับทำเรื่องผิดศีลธรรมที่อีหยังวะ แบบนี้ก็ได้เหรอ แล้วเราก็จะก่นด่าใครสักคนที่ทำเรื่องที่ไม่ควรจะทำออกมาได้ โดยที่จะมีตัวละครอีกตัวน่าสงสาร ยกตัวอย่างเช่น ‘Happy End’ ภาพยนตร์ปี 1999 ที่จอนโดยอนนำแสดงและสาดบทแซ่บ ๆ เอาไว้อย่างถึงพริกถึงขิง แต่เรื่องนี้ต่างออกไปตรงที่ เหตุผลของการมีชู้ครั้งนี้ไม่ได้ถูกนำทางด้วย ความใคร่
หนังใช้ความเหนื่อยล้าจากภาระหน้าที่ ที่ตัวเอกทั้งสองคนต้องแบกเอาไว้มานำทาง และกวักมือเรียกให้ความใคร่เดินตาม เมื่อคนที่มีความกดดันภายในใจคล้าย ๆ กันมาเจอกันก็เลือกที่จะปลดปล่อยมันออกมาด้วยการหาความสุขที่คิดว่า มันคงจะเป็นความสุขชั่วครู่ ผ่านมาแล้วก็คงผ่านไป อ่าห์ ฉันได้ปลดปล่อยแล้ว แต่เมื่อกลับสู่โลกความเป็นจริง ทุก ๆ วัน ทุก ๆ เวลาก็ยังดำเนินไปเช่นเดิม แม้ซังมินจะมีสามีที่รับผิดชอบชีวิตของเธอและลูกอย่างดีแล้วก็ตาม แต่เธอก็ยังต้องดูแลลูกชายอยู่ตลอดเวลาเพียงลำพัง ต้องเหนื่อยทั้งงานของตัวเอง เหนื่อยกับการดูแลลูกที่เธอเท่านั้นที่เข้าใจเขา
ด้านชีวิตของกีฮง ก็ไม่ต่างอะไรกับซังมิน เพราะเขาต้องดูแลทั้งภรรยาที่อ่อนวัยกว่าและมีภาวะทางอารมณ์แปรปรวน กับลูกสาวที่มีปัญหาไม่ต่างกัน ความกดดันและเหนื่อยเหลือเกินกับภาระที่ต้องรับผิดชอบ มันช่างอึดอัดและเหน็ดเหนื่อยสุดบรรยาย ทำให้ทั้งสองคนมาเจอกันและดันจูนกันติด จนจงใจทำเรื่องที่ผิดต่อศีลธรรมเพราะต้านอารมณ์ส่วนลึกของกันและกันไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว นี่คือสิ่งที่หนังกำลังบอกกับเราแบบนั้น บอกว่าทางออกของสองคนนี้มันถูกบีบด้วยความเหนื่อยหน่าย จนโหยหาบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้หัวใจสดชื่น กระชุ่มกระชวย ประหนึ่งได้กินบิงซูในวันที่อากาศอบอ้าว เพื่อชดเชยความรู้สึกที่ขาดหาย แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ไม่สมควรก็ตาม
ว่ากันห้วน ๆ ก็คือ หนังพยายามกรุยทางให้คนทั้งคู่ เดินเข้าสู่เส้นทางผิดศิลธรรมอย่างที่มีจุดให้อภัยแบบ เป็นความเงื่อมแบบมีสาเหตุจนพูดได้ว่า เออก็ได้ ฉันเข้าใจพวกเธอ รู้ว่ามันเหนื่อยมาก รู้ว่ามันหนักหนา แต่มันก็ไม่ควรทำอย่างนี้อยู่ดีนั่นแหละ เพราะทั้งสามีและภรรยาของพวกเธอ เขาเป็นเขาและเขาไม่ได้ทำอะไรผิด แต่โอเคให้อภัยก็แล้วกันนะเพราะมันน่าเห็นใจจริง ๆ ดูหนัง 4k
ยอมรับกับฝีมือการแสดงของกงยูและจอนโดยอนในฉากนี้จริง ๆ ว่าสองคนนี้เอาอยู่อย่างเด็ดขาด การถ่ายทอดอารมณ์ความต้องการออกมาได้ทั้งสีหน้า แววตา และภาษากายที่บอกว่าโหยหาซึ่งกันและกันเหลือเกิน โดยที่ความวาบหวิวที่ส่งผ่านมานั้น พอเหมาะพอดี ไม่หวือหวาจนเกินไป เรียกว่าเป็นศิลปะแห่งการสื่อสารแบบลับ ๆ ล่อ ๆ ที่มองตาก็รู้ใจ รู้ไปถึงไหน ๆ และผุดคำว่า ‘อยาก’ ออกมาได้แบบดังลั่นแม้ไม่ต้องเอ่ยปาก
ความแปลกใหม่ของหนังคบชู้เรื่องนี้ก็อยู่ที่ สถานที่และเวลาแตกต่างไปจากเรื่องอื่น ๆ เพราะโลเคชันของฟินแลนด์เปลี่ยนให้เป็นบรรยากาศของความอึมครึม เสริมให้มวลของหนังชัดเจนขึ้นในทุก ๆ ด้าน ถ้าดูไปด้วยคล้อยตามไปด้วยก็เออ อึมครึมดีจริง ๆ เข้าใจปัญหาของทั้งคู่ได้จริง ๆ แต่เธอแก้ปัญหาไม่ตรงจุดนี่สิ เพราะบรรยากาศชื้นหม่น จะโรแมนติกก็ไม่ใช่ จะมาคุก็ไม่เชิงกลายเป็นตัวแทนด้านอารมณ์ของตัวแสดงเป็นอย่างดี ให้เรารับรู้ได้เลยว่า เมื่อไหร่ที่มีการเล่นเกมซ่อนชู้และมีการเอาใจลงไปเล่น ปลายทางของมันคือความเจ็บปวด
และเมื่อพื้นของหนังถูกปูทางไปด้วยความผิดศีลธรรมต่าง ๆ นานา ใจมนุษย์ที่รู้จักผิดชอบชั่วดีแต่ก็ยังจะทำ ก็ทำให้บรรยากาศของหนังบีบคั้นมากขึ้นไปอีก และอะไรที่ต้องแอบ ๆ ซ่อน ๆ มันก็มักจะใจเต้นแบบนี้แหละ เรียกว่าเล่นกับความรู้สึกของตัวแสดงและความคาดหวังของคนดูว่า ตัวเอกในเรื่องจะตัดสินใจอย่างไรกับชีวิตของตัวเอง พระเอกยังคงเป็นพระเอกอยู่ไหม นางเอกจะเห็นแก่ความสุขความต้องการของตัวเองมากกว่าครอบครัวที่อยู่ในความรับผิดชอบของเธอหรือเปล่า
หนังทำให้เราเห็นปัญหาแต่น่าเสียดายที่ไม่ได้บอกวิธีแก้ปัญหาที่ดีให้กับซังมินและกียง แต่กลับมีเหตุผลผิด ๆ ที่ให้เลือกหยิบมาใช้เมื่อต้องการทำตามใจตนเอง A Man and A Woman จึงเป็นหนังรักหัวใจเตลิด ที่พาเราไปรับรู้ความรู้สึกของตัวแสดงเอก ความทุกข์ในใจที่บีบรัดจนเหนื่อยล้า และโหยหาทางออกที่ผ่อนคลายให้กับตัวเองแบบฉ่ำหวานปนขบขัน จนเราเองก็คร้านจะตำหนิเพราะมันกระชุ่มกระชวยแบบไม่เคยมีมาก่อนอ่ะนะ เข้าใจล้วน เหมือนอย่างที่นางเอกบอกเอาไว้ว่า “ไม่ต้องให้อภัยฉันหรอก เพราะฉันเองยังให้อภัยตัวเองไม่ได้เลย” ดูหนังออนไลน์ 4k
ถ้าจะบอกว่าหนังเรื่องนี้ไม่มีตัวละครไหนทำผิดก็เห็นจะมีแต่เด็กสองคนที่เป็นลูกเท่านั้นแหละค่ะ แต่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายล้วนมีส่วนผิดด้วยกันทั้งนั้น แต่เป็นความผิดที่อีกฝ่ายไม่ตั้งใจส่วนอีกฝ่ายตั้งใจล้วน ๆ ถ้าดูหนังแล้วย้อนดูสังคม ก็เป็นไปได้ว่าอาจมีครอบครัวไหนสักครอบครัวหนึ่ง กำลังเผชิญสภาวะของความเหนื่อยหน่ายนี้อยู่ อาจมีใครคนหนึ่งในครอบครัวคุณกำลังเหนื่อยจนขี้เกียจจะบอก หรืออาจมีใครคนหนึ่งในครอบครัวคุณที่ไม่รู้ว่าคุณเหนื่อยมากเพราะคุณไม่เคยบอกให้เขารู้ แล้วทางออกของปัญหานี้ควรจะทำอย่างไร
เป็นภาพยนตร์รักโรแมนติกที่ถ่ายทำทั้งในประเทศเกาหลีใต้และฟินแลนด์ ตอนที่อยู่ฟินแลนด์ต้องบอกเลยว่าประทับใจภาพ แสง สี และมุมกล้องอย่างมาก ยิ่งซีนหิมะตก ดูละมุน โรแมนติกสุด ๆ ฉากเลิฟซีนในห้องซาวน่า เป็นภาพจำที่ดูแล้วยากจะลืม ตอนสุดท้ายนั่งแท็กซี่บนถนนที่เต็มไปด้วยหิมะ และสองข้างทางไม่มีอะไรเลย ถ่ายทอดออกมาได้สวยจับตา โลเคชั่นในเกาหลีใต้ก็มีความเป็นเอกลักษณ์ สวยไม่แพ้กันทั้งห้องเสื้อของซังมิน หรืออาคารที่กีฮงเป็นคนออกแบบก่อสร้าง พูดง่าย ๆ เป็นโปรดักชั่นงานดี งานละเอียดที่ควรค่าแก่การดู
A Man and A Woman เป็นผลงานที่ขายการแสดงของสองพระนางล้วนๆ เพราะทั้งคู่พาผู้ชมดำดิ่งไปสู่ห้วงอารมณ์ของตัวละครที่เรียกได้ว่า ทั้งเหงา เปล่าเปลี่ยวและต้องการใครสักคนที่จะมาเติมเต็มชีวิตอันแสนไร้สิ้นความสุขสักที การที่หนังปรับเปลี่ยนประเด็นให้ตัวละครทั้งคู่มีครอบครัวแล้ว ยิ่งทำให้ฉากตอนจบของหนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยความหม่นเศร้าที่ไม่ฟูมฟาย เมื่อบางครั้งต่อให้เราจะรักและมีใจให้กับอีกฝ่ายมากแค่ไหน บางครั้ง “หน้าที่” ของการดำรงไว้ซึ่งคำว่า “ครอบครัว” ก็ค้ำคออยู่ไม่น้อยเช่นกัน
ใครเป็นแฟนโอปป้า กงยู ไม่ควรพลาดเรื่องนี้อย่างที่สุด เพราะเป็นผลงานรักโรแมนติกที่แน่นไปด้วยฉากอีโรติกสุดแซ่บเกินกว่าเรื่องไหน ๆ ของกงยู เนื้อเรื่องเกี่ยวกับความรัก ชีวิตคู่ สะท้อนความเป็นจริงออกมาได้อย่างสมจริงที่สุด แถมได้นักแสดงมากฝีมืออย่างจอนโดยอนอีกด้วย งานละเอียด โปรดักชั่นเยี่ยม
ข้อดี
ไม่ผิดหวังกับการแสดงของกงยูและจอนโดยอน เอาอยู่แบบกระจัดกระจายอยู่แล้วสองคนนี้ บวกกับโลเคชันแปลกตา สวยงามและส่งเสริมอารมณ์ของภาพยนตร์ได้แบบมีส่วนสำคัญ แถมด้วยมุมกล้องสวย ๆ โดยเฉพาะการจัดแสงที่ผลักอารมณ์ให้คล้อยตามได้มาก ๆ
ข้อเสีย
บทพยายามหาเหตุผลของการนอกใจให้ตัวแสดง ให้คนดูคล้อยตามจนต้องบอกว่า อืมก็ได้ ฉันเข้าใจพวกเธอจ้ะ เห็นใจแหละแต่มันมีวิธีที่ดีกว่านี้ไหมล่ะ อิหยังวะ