Home |
Last modified พฤษภาคม 9th, 2022 at 02:46 pm
อย่าให้ยูจินเข้าบ้าน
Intruder เป็นภาพยนตร์แนวระทึกขวัญปนปริศนาลึกลับให้สืบหาความจริง จากพลอตโดยเบื้องต้น ก็จะมีความคล้ายภาพยนตร์เรื่อง Forgotten (2017) ซึ่งพี่ชายที่หายไปกลับมา พร้อมกับสิ่งผิดปกติที่เป็นปริศนาให้ค้นหา และยังมี คิมมูยอล รับบทนำเป็นพี่ชายของทั้งสองเรื่องด้วย แต่ในรายละเอียดของเรื่องราวมีความแตกต่างกัน มาดูที่ต้นเรื่องกันก่อนดีกว่า รีวิวหนังออนไลน์
เรื่องราวของชายคนหนึ่งที่ชื่อ คังซอจิน ซึ่งได้สูญเสียภรรยาไปจากเหตุการณ์ฆาตกรรม รวมทั้งสูญเสียน้องสาว (คังยูจิน) ไปตั้งแต่เด็ก ซึ่งเธอได้หายตัวไปเป็นเวลา 25 ปี แต่แล้วอยู่ ๆ เขาก็ได้รับสายจากทางตำรวจว่าได้พบตัวน้องสาวของเขาแล้ว แต่เธอกลับมาพร้อมกับความทรงจำที่เลือนหายไป การกลับมาครั้งนี้ของเธอทำให้เขาสงสัยในตัวเธอเป็นอย่างมาก จึงพยายามสืบหาตัวตนที่แท้จริงของน้องสาวของเขาไปพร้อมกับการขอทำคดีภรรยาที่ถูกฆาตกรรม
Intruder หนังสัญชาติเกาหลีผลงานการกำกับและเขียนบทของ ซนวอนพยอง บอกเล่าเรื่องราวของซอจิน (คิมมูยอล จาก The Gangster, The Cop, The Devil) สถาปนิกหนุ่มที่เพิ่งสูญเสียภรรยาไปเมื่อไม่นานมานี้ ด้วยความเครียดสะสมทำให้เขามีอาการวิงเวียนศีรษะคล้ายจะวูบหมดสติอยู่บ่อยครั้ง เขามักจะฝันร้ายถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับภรรยาที่มีรถลึกลับมาชนและหนีไป และบางครั้งซอจินก็ฝันถึงเหตุการณ์ในอดีตสมัยที่เขายังเป็นเด็ก ซึ่งเขาได้พลัดหลงกับน้องสาวในสวนสนุกและนับตั้งแต่วันนั้นมาก็ไม่เคยมีใครได้พบกับยูจินอีกเลย
จนกระทั่งวันหนึ่งมีสายโทรศัพท์จากตำรวจติดต่อมาที่บ้านของซอจินว่า มีคนพบยูจิน(ซงจีฮโย จาก A Frozen Flower) แล้ว นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ทั้งสองนัดพบกันและซอจินได้ยื่นข้อเสนอให้เธอตรวจดีเอ็นเอเพื่อยืนยันตัวตน เมื่อทุกอย่างกระจ่างว่ายูจินคนนี้มีรหัสพันธุกรรมที่ตรงกับสายเลือดของทุกคนในบ้าน หญิงสาวแปลกหน้าจึงได้กลับมาอยู่กับครอบครัวนี้ ท่ามกลางความรู้สึกตะหงิดๆของซอจิน ว่าบางทีแล้วผู้หญิงคนนี้อาจจะไม่ใช่น้องสาวคนเดิมที่เขาเคยรู้จัก
ยูจิน (ซงจีฮโย จาก A Frozen Flower) หญิงสาวที่หายตัวไปอย่างลึกลับนานถึง 25 ปี ก่อนที่วันดีคืนดี เธอจะกลับมาหาพี่ชายอย่าง ซอจิน (คิมมูยอล จาก The Gangster, The Cop, The Devil) และครอบครัว ในขณะที่คนอื่น ๆ ตื้นตันและดีใจกับการกลับมาของยูจิน แต่ซอจินกลับรู้สึกว่าเธอคนนี้อาจไม่ใช่น้องสาวของเขา
ผลงานจากผู้กำกับหน้าใหม่ ซอนวอนเปียง ที่ทำหนังเรื่องแรก โดยได้ดาราแม่เหล็กอย่าง ซงจีฮโย ที่คุ้นหน้าคุ้นตาจากรายการวาไรตี้อย่าง Running Man ที่ฮิตในบ้านเราอยู่พักใหญ่ มาพลิกบทบาทเข้มดุและมืดหม่นในบท ยูจิน น้องสาวปริศนาที่หายไปกว่า 20 ปี และส่อพิรุธมากมาย
ในขณะที่อีกเดอะแบกของหนังก็ได้ คิมมูยอล ที่กลับมาเล่นหนังแนวจิตวิทยา ซึ่งจะว่าไปกลิ่นคล้าย หนัง Forgotten เมื่อปี 2017 ที่มีให้ชมในเน็ตฟลิกซ์ของเขาอยู่ไม่น้อยเช่นกันโดยเฉพาะครึ่งแรกของหนัง หากแต่ว่ารอบนี้เขาสลับบทบาทมาเป็นตัวละครที่แทนสายตาผู้ชมและต้องสืบหาความจริงที่พร่าเลือนของตนเองแทน
ส่วนที่ดีของหนังคือ การแสดงของ 2 ดารานำที่สมแก่ชื่อเสียง เพราะช่วยพยุงหนังให้มีความตึงเครียดและตื่นเต้นได้ดี แม้มองไปในหนังแนวเดียวกันจะต้องยอมรับว่าบทไม่ได้ส่งให้ทั้งคู่โชว์พลังแบบน่าจดจำอะไรนักก็ตาม มิติทางลึกภายในตัวละครไม่ได้ถูกขับชัดออกมา แต่ทั้งนี้ทั้งคู่ก็หาช่วงเวลาที่เป็นของตนเองได้แบบพอเอาตัวรอด อย่างคิมมูยอลก็มีฉากที่เขาต้องโดนเล่นงานจิตใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนแทบแหลกสลาย ส่วนซงจีฮโยก็มีฉากตีบทสองหน้าให้ชวนหมั่นไส้อยู่เป็นระยะ น่าแปลกว่าฉากไคลแมกซ์ของหนังกลับไม่ใช่ส่วนที่น่าจดจำไปเสียฉิบ ผิดขนบหนังแนวนี้มาก ดูหนัง
สิ่งที่ทำได้เกือบดี คือการให้ตัวละครเอกเป็นสถาปนิกที่บ้างาน เขามีปมซ้ำซ้อนหนัก ๆ ทั้งเรื่องในอดีตที่ปล่อยมือน้องสาวจนพลัดหลงหายไป ต่อมาก็ในปัจจุบันที่ภรรยาของเขาเสียชีวิตจากการชนแล้วหนี และท้ายสุดคือการต้องรักษาครอบครัวที่กำลังแตกสลายเพราะการมาถึงของยูจิน
สิ่งที่หนังเกือบทำได้น่าสนใจคือ การดึงเอาความเป็นสถาปนิกมาเล่นกับกิมมิกปมต่าง ๆ เช่นว่า เขาออกแบบบ้านที่อยู่ในตอนนี้เพื่อตามหาน้องสาวที่หายไป หรือฉากสถานที่ในความทรงจำที่เขาทำการสะกดจิตบำบัดแล้วสื่อเชิงสัญลักษณ์ออกมาเป็นภาพต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนเห็นเชื้อความคิดสร้างสรรค์ที่มีคุณภาพที่ไม่ถูกนำเอามาใช้งานได้อย่างดี เพราะสุดท้ายมันก็ไม่ได้ขยายความจนคนดูเข้าใจว่าแบบบ้านมันสอดรับกับปมต่าง ๆ อย่างไร หรือกิมมิกความทรงจำต่าง ๆ มันสะท้อนภาวะภายในตัวละครอย่างไร
และสิ่งที่นำความฉิบหายมาสู่หนังเรื่องนี้มากที่สุดคงไม่พ้นบทหนัง ด้วยความที่เป็นหนังเรื่องแรกของผู้กำกับใหม่ มันจึงเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานยิ่งใหญ่จนคุมไม่อยู่ เมื่อต้นเรื่องวางพลอตไว้อย่างวูบวาบหวือหวาราวกับม้าหนุ่ม ครั้นเมื่อดีกรีความเครียดพุ่งขึ้นไปเรื่อย ๆ เจ้าม้าหนุ่มก็พยศเอาเสียผู้กำกับคุมให้วิ่งในลู่ไม่ได้ ส่งผลให้การเฉลยจวบจนจุดคลี่คลายกลายเป็นงานหยาบที่ชวนกุมขมับอยู่ไม่น้อย ไม่ใช่ว่าไม่สมเหตุสมผลอย่างสิ้นเชิง ทว่ามันดูฝืนในการพยายามอธิบายแบบเอาให้หนังจบได้ ด้วยไอเดียที่เชยระดับหนังเกรดบียุคเก่า ยิ่งฉากไคลแมกซ์ที่มีการคว้ามือขอบหน้าผานี่มันช่างเชยจนทำเอางานคราฟต์ครึ่งเรื่องแรกแทบไม่เหลือคุณค่าทีเดียว
ผู้กำกับยังโกงบทให้ตัวละครเอกขาดสติแทบทั้งเรื่อง ทั้งโดนยา โดนหลอก โดนใส่ความ โดนปั่นหัวสารพัด ครั้นเมื่อสืบสวนจนรู้ความจริง ก็ยังวิ่งเป็นหนูเข้าไปติดจั่นแบบโง่ ๆ ได้ซ้ำ ๆ ซาก ๆ อย่างว่าหากตัวละครไม่มีสติในการรับมือสิ่งต่าง ๆ สถานการณ์อะไรก็ย่อมเกิดขึ้นได้ตามผู้สร้างบันดาล และก็ลงล็อกพอดีกับการหาทางลงให้เนื้อเรื่องที่พยศไปเกินผู้กำกับจะคุมไหว ความไร้สติของพระเอกก็เล่นเอาผู้ชมยังเหนื่อยจะเอาใจช่วย และพาลจะเป็นความหงุดหงิด ซึ่งพูดตามตรงท้าย ๆ เรื่องแทบจะช่างชะตาตัวละครแล้ว ถ้าบทจะปั่นให้แก้ปัญหาโง่ ๆ ขนาดนี้
ดูหนังออนไลน์
ช่วงเปิดเรื่องจะฉายถึงตัวละครหลัก (คังซอจิน) ที่ในระหว่างเขากำลังทำงานได้นึกถึงน้องสาวที่จากเขาไปตั้งแต่เด็กและภรรยาที่ถูกฆาตกรรมขึ้นมา ซึ่งเป็นอาการที่เขามักจะนึกถึงเป็นประจำ และไม่นานน้องสาวของเขา (คังยูจิน) ได้กลับมาพร้อมกับการสูญเสียความทรงจำ
จากนั้นหนังได้ดำเนินเรื่องเรื่อย ๆ การดำเนินเรื่องอาจจะเนิบ ๆ ช้า ๆ ค่อนข้างน่าเบื่อไปบ้าง ค่อย ๆ ฉายถึง คังยูจิน ที่ได้เข้ามาช่วยงานในบ้านแทนที่เขาทุกอย่างถึงขนาดตัดสินใจบางเรื่องด้วยตัวเองและทำให้คนในบ้านเริ่มเปลี่ยนไป รวมทั้งลูกสาวของ คังซอจิน ที่เธออยากให้คนที่กลับมาเป็นแม่ของเธอมากกว่า ซึ่งช่วงนี้อาจมีใส่ดราม่าครอบครัวเข้าไปบ้าง
ทำให้ คังซอจิน เริ่มไม่ค่อยพอใจและเริ่มสงสัยในตัวเธอในหลาย ๆ อย่าง โดยช่วงแรกหนังยังไม่ได้เปิดเผยเรื่องราวอะไรมากนัก จากนั้นหนังจะค่อย ๆ เปิดเผยเรื่องราวออกมาทีละน้อย ด้วยตัวละครที่ปรากฎตัวมาเหมือนรู้จัก คังซอจิน พร้อมกับค่อย ๆ เผยความโหดร้ายในตัว คังซอจิน ไปพร้อมกับ คังยูจิน ที่ได้สืบสวนหาตัวตนที่แท้จริงของ คังซอจิน และการค่อย ๆ หายตัวไปอย่างลึกลับของคนในบ้าน ตัวละครแต่ละคนในบ้านที่ทำตัวแปลกไปเหมือนโดยมนต์สะกด ชวนติดตามลุ้นเอาใจช่วยตัวละครหลัก (คังซอจิน) และเปิดเผยเรื่องราวทั้งหมดในช่วงท้าย ๆ เรื่อง ซึ่งดูแล้วก็สงสารตัวละคร ดูหนังฟรี
ว่าด้วยมู้ดโทน หนังทยอยวางความตื่นเต้นลุ้นๆไว้ค่อนข้างเยอะหลายจุด มีความน่าสนใจในการผูกเรื่อง การหักมุมเซอร์ไพรซ์ หลังจากผ่านครึ่งชั่วโมงแรกไปที่เพาะหน่อแห่งความสงสัยไว้ให้ผู้ชมได้เริ่มคาดเดากันไป ก็จะสลับเรื่องราวการค่อยๆขุดคุ้ยสาวความจริงให้เผยออกมา กับสร้างความกดดันของสถานการณ์ที่เผชิญ และไปพีคที่ครึ่งชั่วโมงสุดท้าย ที่สาดเนื้อหลายๆปมเข้ามายำรวมเรื่องกัน แต่ละประเด็นเลยไม่ค่อยได้มีเวลาส่งบทขยี้อารมณ์ให้ถึงเท่าไหร่นัก เลยเหมือนไม่มีอันไหนพีคถึงไคลแม็กซ์จริงๆจังๆสักอัน รวมถึงวิธีการบิวท์ภาพซาวน์ให้ดูหลอนระทึกเกินหน้าเนื้อหาในบางที ทั้งๆที่ตัวเนื้อหาสำคัญเองขาดความสมจริงในหลายจุด ทำให้ภาพรวมของความระทึกขวัญเสียเสน่ห์ไปหน่อย
ถ้าดูกันแบบไม่คิดอะไรเยอะ ก็ถือว่าได้ความบันเทิงดีระดับหนึ่งนะ ได้ดูความสามารถของนักแสดงดีๆ คิมมูยอลเองลงทุนลดน้ำหนักเพื่อให้เข้ากับบทคนป่วยจิต ทุกข์ตรมซึมเศร้า หุ่นเลยแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดจากที่ล่ำๆแน่นๆในเรื่อง The Gangster, The Cop, The Devil (2019) ส่วน ซงจีฮโย ทั้งงานเมคอัพ คอสตูม และแอคติง ทำเธอเปลี่ยนไปจากภาพจำเมมเบอร์หลักรายการ Running Man หรือซีรีส์ Was It Love? (2020) อย่างสิ้นเชิง
พล็อตเรื่องคล้าย ๆ Forgotten (2017) ความทรงจำพิศวง ไม่ว่าจะเป็นตัวละครในครอบครัวที่หายตัวไปและกลับมาพร้อมกับการสูญเสียความทรงจำ พร้อมกับการทำตัวแปลก ๆ ที่ไม่เหมือนเดิม ตัวละครแต่ละคนที่ดูผิดปกติ การใช้วิธีสะกดจิตคน ซึ่งตัวละครแต่ละคนก็แสดงได้ดีสมบทบาทไม่แพ้กัน ถึงแม้จะมีการดัดแปลงบางส่วนให้ต่างกันออกไปบ้างและการดำเนินเรื่องอาจจะเป็นเส้นตรงไม่ได้มีการหักมุมอะไรมาก แต่ก็ถือได้ว่าชวนติดตาม ลุ้นเอาใจช่วยตัวละครจนจบเรื่อง สำหรับใครที่ชอบดูเรื่อง Forgotten (2017) ความทรงจำพิศวงก็ลองหาเรื่องนี้มาดูได้เลย
ระหว่างที่เหตุการณ์ดำเนินไปหนังก็พยายามทำให้คนดูไขว้เขวอยู่ตลอดเวลาว่าตกลงแล้ว พระเอกของเรื่องอย่างซอจินนั้นมีอาการทางประสาท คิดมากแล้วหลอนไปเอง หรือแท้ที่จริงแล้วยูจินนั้นเป็นตัวปลอมกันแน่ ระหว่างที่ปล่อยให้คนดูคาดเดากันต่างๆนานา บทสรุปในช่วงท้ายก็ไม่ได้พลิกความคาดหมายนัก ซึ่งส่วนตัวก็แอบรู้สึกว่าวิธีการที่หนังเลือกจะหาทางออกให้กับตัวละครนั้นก็จัดได้ว่า “แถ” เอาเรื่องอยู่ไม่น้อย เว็บดูหนัง
น่าเสียดายที่บทสรุปของ Intruder ไม่ค่อนทำให้เรารู้สึกเชื่อว่าตัวละครจะวางแผนการได้ลึกล้ำเป็นทฤษฎีสมคบคิดแบบที่ปรากฏอยู่ หรือน้ำหนักในการกระทำของตัวละครที่อำพรางตัวตนและก่ออาชญากรรมในแบบที่ตำรวจไม่สามารถแกะรอยได้ ก็ยิ่งทำให้เหตุผลของหนังเรื่องนี้ เบาหวิวยิงกว่าปุยนุ่นด้วยประการทั้งปวง เว็บดูหนังฟรี
เป็นหนังเกาหลีแนวธริลเลอร์จิตวิทยาที่ทำได้ดีในครึ่งแรกของหนัง แต่แทนที่จะเอาแต่พองามและคุมให้อยู่มือด้วยการขยี้ความตึงเครียดแบบเฉือนคม และการเฉลยที่ลงตัว หนังกลับเลยเถิดคิดการใหญ่จนครึ่งหลังเป็นมะเร็งของเนื้อเรื่องไปโดยปริยาย