Home |
Last modified ตุลาคม 25th, 2021 at 05:49 pm
หนัง Ghost House หรือชื่อไทยว่า มันอยู่ในศาล สองคู่รักชาวอเมริกันที่หวังมาฮันนีมูนในประเทศไทยกลับต้องมาเผชิญความหลอนขั้นสุดตอนที่พวกเขาบังเอิญพบศาลพระภูมิลึกลับขณะท่องเที่ยวอยู่กลางชนบท พวกเขาถูกวิญญาณขึ้นชื่อว่าเฮี้ยนจัดตามหลอกหลอนทั้งคู่จนเกือบเสียสติ เมื่อสิ้นไร้ทางหนี สองคู่รักทำดิ่งลงสู่วังวนแห่งความสยองเกินกว่าจินตนาการ รับมือกับปรากฏการณ์ที่ไม่มีใครสามารถหาคำตอบได้เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความชั่วร้ายที่จะทำให้คุณฝันร้ายไปตลอดกาล
น่าสนใจเสมอเมื่อได้เห็นหนังต่างชาติเล่าเรื่องภายในไทย และที่ผ่านมามันก็มีทั้งแย่ พอรับได้ และดีงามน่าสนใจไปเลยก็มี (หมวดหลังนี่มักจะเป็นหนังที่คนทำมีประเด็นจริงจังส่วนตัวที่จะเล่า ไม่ใช่หนังที่พยายามอยู่ในตลาดกระแสหลัก) และโดยเฉพาะหนังผีที่มักจะหยิบเอาความเชื่อเรื่องผีสาง และศาสนามาเล่าก็มีให้เห็นเรื่อย ๆ ส่วนตัวแล้วสำหรับ Ghost House อยู่ในหมวดที่ยังพอรับได้ (ส่วนหนึ่งคงเพราะเคยดูหนังแย่ ๆ เทือกนี้มาไม่น้อย
จนบางทีมันก็กลายเป็นความบันเทิงไปอีกรูปแบบหนึ่ง) ถึงแม้ว่าความสมบูรณ์ของหนังจะยังพร่องไปเยอะมาก ทั้งในแง่ของโปรดักชั่นที่ดูไม่ได้ใส่ใจรายละเอียดบางภาพบางซีนเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะช็อตเปิดสถานที่ต่าง ๆ ทั้งหลาย อย่างช็อตบรรยากาศกรุงเทพฯ ดูหนังออนไลน์ และช็อตสนามบินที่ดูคุณภาพช็อตเบลอมัว ๆ ต่ำเตี้ยเรี่ยดินมาก ๆ แต่ความบันเทิงความน่ากลัวตุ้งแช่ก็ยังพอดูได้ไปเรื่อย ๆ และยังมีความน่าสนใจให้พอติดตามได้อยู่บ้าง ทั้งในมุมของการมองสังคมไทย และการสร้างผสานความเชื่อระหว่างผีฝรั่งและหยิบยืมผีเอเชียอย่างญี่ปุ่น มารวมกันให้อยู่ในผีตัวเดียวที่อยู่ในบริบท และบรรยากาศแบบไทย ๆ
ความแปลกประหลาดมักจะพบได้เสมอในหนังต่างชาติที่เบสโลเคชั่นหลักในไทย โดยเฉพาะหนังฝรั่งที่เป็นหนังผีหรือหนังเกี่ยวกับไสยศาสตร์และความเชื่อเหนือธรรมชาติ ซึ่งความพิกลเหล่านี้ก็มักจะทำให้หนังบันเทิงได้ไม่ยากเช่นกัน ดูหนังออนไลน์ แต่หลายครั้งหลายคราวหนังจำพวกนี้ ก็มักขาดความสมเหตุสมผลที่จะทำให้เรื่องราวไหลลื่นหรืออินตามได้ ทำให้หนังที่พยายามยำของสุดมือสุดตีนเพื่อให้หนังสนุก มันทั้งล้น ทั้งเลอะเทอะ ออกทะเลจนกู่ไม่กลับได้ง่าย ๆ แต่กับ Ghost House ไม่ได้จับฉ่ายหรือไม่สนใจเรื่องราวขนาดนั้น คนทำยังรู้ว่ากำลังเล่าเรื่องอะไรอยู่ แล้วก็นำพาหนังไปถึงปลายทางได้อย่างมีสติสัมปชัญญะพอสมควร ถึงแม้เส้นเรื่องมันจะเดาได้แบบเราไม่ต้องพยายามเดาก็รู้ หลาย ๆ อย่างโดยเฉพาะการตัดสินใจทำอะไรบางอย่างของตัวละครหลัก ก็ไม่ได้ถูกชักนำให้น่าเชื่อถือ และการปูทางบางสิ่งบางอย่าง อย่างเช่นเหรียญตก เพื่อเชื่อมโยงตบกลับให้บทมันกลมขึ้นในตอนท้าย ก็ชัดเจนไปเสียหมด อีกทั้งยังไม่มีประเด็นตึงเครียดอะไรที่ถูกชูให้น่าสนใจ อย่างเช่น ฉากที่พระเอกต้องไปหลอกให้คนอื่นมาแทนที่แฟนของตัวเอง ที่ถูกผีคุกคามเอาชีวิต ที่น่าจะขยี้ให้กลายเป็นซีนลุ้นระทึก หรือกระอักกระอ่วนทางอารมณ์ให้น่าติดตามได้มากกว่านี้ก็ตาม ดูเหมือนไม่ได้ให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการปรับเปลี่ยนไปตามร่องอารมณ์บนความเป็นมนุษย์ให้ไหลลื่นนัก หนังทั้งเรื่องจึงต้องรอแค่ซีนนางเอกหลอนแล้วผีโผล่มาหลอกเท่านั้น คนดูถึงจะตกอกตกใจ ดูหนังออนไลน์ ซึ่งก็ยังดีที่นักแสดงที่ไม่ได้เป็นที่รู้จักนำพาซีนเหล่านี้ให้ระทึก และน่าสงสาร ให้มุมคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวและถูกกระทำได้ถึงอารมณ์ตัวละครที่ควรจะเป็นอยู่ ซึ่งก็คงทำให้คนดูรู้สึกลดความเสียดายค่าตั๋วไปได้บ้าง
ในส่วนของมุมมองคนทำยังมองภาพความเป็นไทยแค่ฉาบฉวย เห็นได้ชัด ๆ จากซีนที่อยู่ ๆ นางเอกก็เห็นภาพหลอนเป็นควานช้างขี่ช้างมาจากป่าทึบ ๆ ด้านหลัง แต่สุดท้ายแล้วภาพนั้นก็ไม่ได้ถูกนำมาใช้กับเรื่องราวแต่อย่างใด นอกจากจะเป็นภาพช่วยบอกว่านี่ช้างนะ คือประเทศไทยนะ เช่นเดียวกับการเลือกเพลงไทยกลิ่นไทยเดิม หรือลูกทุ่งมาวาง แต่ถึงอย่างนั้นการให้ฉากหลังของเรื่องราวแทบทั้งหมดเป็นถิ่นอโคจร ก็พรีเซนต์ออกมาได้น่าสนใจดี ถึงจะเห็นร่องรอยของการเซตขึ้นมาให้รู้สึกไม่ค่อยสมจริงอยู่บ้าง รวมไปถึงแลนด์สเคปอย่างทะเลสาบในตอนท้ายที่ถ่ายออกมาได้โดดเด้งสวยงามกว่าสถานที่อื่น ๆ ส่วนหมอผีในซีนไคลแม็กซ์ที่สปีคอิงลิชได้ไม่ด้อยไปกว่าลิสซึนนิ่งจับใจความได้ นี่ก็เป็นตัวอย่างของคนอาเซียนที่เห็นความสำคัญของภาษาโลกที่ 1 ซึ่งช่วยยกระดับอาชีพได้ดีจริง ๆ ลูกค้าต่างชาติน่าจะเยอะ แซว ๆ ๆ สุดท้ายคือชอบที่เอาผีคนญี่ปุ่นมาอยู่ในบริบทแบบไทย ๆ และสิงอยู่ในวัตถุแบบไทย ๆดูหนังออนไลน์ มันน่าสนใจดี แต่น่าเสียดายที่หนังไม่ได้ใช้ส่วนนี้เป็นเงื่อนไขอะไร และกลายเป็นส่วนประกอบที่ไม่สลักสำคัญอะไรเลย
ด้านงานสร้างก็คงไม่ต้องพูดถึง มันบีมากอยู่แล้ว ทั้งโปรดักชั่น การตัดต่อ และการดีไซน์ฉากที่กล่าวไปข้างต้น กรุงเทพฯ นั้นดูลึกลับและเต็มไปด้วยหมอกควันตลอดเวลา ซึ่งไม่เข้าใจว่าจะเป็นอย่างนั้นทำไม ซีนที่ไปต่างจังหวัดก็ยิ่งดูลึกลับและลับแลยิ่งไปใหญ่ จนเริ่มสงสัยว่าในเรื่องเล่าในยุค 2017 หรือ 1957 กันแน่ งงมากจริง ๆ แถมเพลงประกอบก็ยังตลกมากไปอีก