Home |
Last modified ตุลาคม 21st, 2021 at 11:44 am
ดูหนังออนไลน์ Boss Level อดีตทหารหน่วยพิเศษ (Frank Gillo) ที่ติดอยู่ในวังวนเวลาที่เขาจะต้องถูกฆ่าทุกครั้ง และเขาค้นพบว่านี่คือโครงการลับบางอย่างของรัฐบาลที่นำโดยตัวละครของ Mel Gibson ที่อาจจะไขปริศนาของวังวนเวลานี้ได้ ในระหว่างทุกครั้งที่เขาตายซ้ำตายซ้อนเขาต้องเผชิญหน้ากับนักฆ่าที่พยายามกีดกันเขาจากการค้นหาความจริงและช่วยเหลืออดีตภรรยาของเขา (Naomi Watts)
Boss Level อย่าเพิ่งรีบตาย ถ้ายังเอาชนะบอสไม่ได้ เป็นหนังนอกสายตาเสียจริง ๆ สำหรับเรื่อง Boss Level ที่นำแสดงโดย Frank Grillo หรือ Brock Rumlow วายร้ายคู่ปรับกัปตันอเมริกา จาก Captain America The Winter Soldier/Civil War ที่ผลิกบทบาทจากวายร้าย สู่บทพระเอกในหนังของตัวเองแบบเต็มตัว ซึ่งถ้ามองจากโปสเตอร์เผิน ๆ อาจจะคิดว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังเกรดบี สำหรับลงแผ่นหรือเปล่า แต่ผิดคาดเมื่อได้ดูตัวอย่างหนังนั้น ตัดได้ค่อนข้างน่าสนใจ เรื่องราวว่าด้วย รอย พัลเวอร์ ผู้ซึ่งติดอยู่ในลูปเวลามาเป็นเวลา 100 กว่ารอบแล้ว โดยที่ทุกครั้งที่เข้าตื่นขึ้นมา ต้องเผชิญกับนักฆ่ามือพระกาฬ ที่ต่างตามล่า ตามฆ่าเขาอยู่ร่ำไป ซึ่งเขาสงสัยอยู่อย่างเดียวคือทำไมเขาถึงต้องโดนตามฆ่า หลังจากที่เขาได้รีเซ็ตชีวิตใหม่หลาย ๆ ครั้งเข้า ก็เริ่มเชี่ยวชาญวิธีหลบหลีกการตามล่าต่าง ๆ ได้ เพื่อสืบหาความจริงว่า อะไรกันที่ทำให้เขาต้องติดอยู่ในลูปเวลานี้ และทำไมเข้าถึงต้องโดนตามฆ่า หลังจากได้ดูจบแล้วต้องบอกเลยว่า นี่คือหนังที่สนุกเกินหน้าโปสเตอร์หนังเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นการใส่ความกวนโอ้ย มุขตลกต่าง ๆ ช่างเข้ากับตัว Frank Grillo เป็นอย่างมาก แถมยังใส่ความอบอุ่นหัวใจ ฟิลหนังครอบครัวเข้ามาด้วย ซึ่งส่วนหลังนี้ค่อนข้างเซอไพร์ส์เลยทีเดียวไม่นึกว่าหนังจะมาในทิศทางนี้ในช่วงท้ายของเรื่อง สรุปแล้วตัวหนังนั้น เรียกได้ว่าสนุกเกินคาดเสียจริง ๆ อาจจะมีข้อเสียอยู่อย่างเดียวคือฉากจบ ที่ยังไม่ค่อยสะใจ หรือให้ความเคลียร์กับคนดูซักเท่าไหร่นั่นเอง 7.5/10
ดูหนังออนไลน์ Boss Level เป็นหนังที่บอกเล่าเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่พบว่าตัวเองติดอยู่ในลูปเวลา ที่ต้องตายซ้ำตายซ้อนจากฝีมือเหล่านักฆ่าที่หมายปองชีวิตเขา เขาต้องยอมตายแล้วตายอีกเพื่อเรียนรู้และพยายามหาคำตอบว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่! พล็อตอาจไม่ได้แปลกใหม่ และอาจไม่ได้เดายาก หนังแนวแบบ Goundhog Day ที่ถูกหยิบเอาแนวคิดมาทำเป็นหนังหลายแบบมาก ทั้งแบบ Edge of Tomorrow, Happy Death Day ซึ่งใน Boss Level ก็เอาแนวคิดนั้นมากับการตายแล้วตายเล่าจนเรียนรู้และเทพขึ้นมา ความสนุกของมันจริง ๆ ไม่ได้อยู่ที่เหตุผลว่าทำไมเขาต้องโดนไล่ฆ่าหรือติดลูปแบบนี้
แต่ความสนุกของมันคือการที่ได้เห็นพระเอกของเราจัดเต็มใส่เหล่าตัวร้ายนั่นแหละ หนังมีทั้งความมันส์ ความบันเทิง ความสนุก ความฮา และยิ่งเป็น Frank Gillo มารับบทพระเอกแล้วนั้น บทบาทนี้มันยิ่งเข้ากับเค้าสุด ๆ เพราะเขาได้โชว์ฝีไม้ลายมือในฉากแอ็คชันมากมายทั้งมือเท้า ปืน ดาบ ครบถ้วน แต่มันก็ยังแอบน่าเสียดายนิดนึง ทางด้านฉากแอ็คชันสอบผ่าน แต่ถ้าจัดเต็มกว่านี้ได้จะดีมาก มันแอบมีบางส่วนที่เสียเวลาท้าวความนานไปหน่อย ส่วนทางด้านเนื้อเรื่องถ้าหนังทำออกมาให้กลมกล่อมกว่านี้มันจะน่าติดตามกว่านี้มาก และอีกหนึ่งสิ่งที่น่าเสียดายไม่แพ้กันคือบทบาทตัวละครอื่น ๆ ที่บทบาทน้อยเกินไป ทั้ง Naomi Watts, Michelle Yeoh หรือตัวร้ายที่แสดงโดย Mel Gibson ถ้าให้ทั้งคู่ได้ปล่อยของมากกว่านี้ โดยเฉพาะทางด้านรายหลังถ้าให้บทเขาเยอะกว่านี้น่าจะดีกว่านี้มาก ๆ แรก ๆ ดูดีดูร้าย แต่ตอนหลังดูไม่บอสสักเท่าไหร่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหนังมันก็ยังให้ความบันเทิงแบบครบรส ถ้าไปดูแบบไม่คิดอะไร เข้าไปเสพแอ็คชันมัน ๆ กับพล็อตที่ไม่ได้ใหม่ แต่ก็ยังบันเทิง สนุก และเพลินเรื่องนึงเลยทีเดียว
ทำให้ทุก ๆ วันเขาต้องถูกทีมหน่วยสังหารตามไล่ฆ่าจนตาย แต่ทุกครั้งที่รอยถูกฆ่า เขาก็จะฟื้นขึ้นมาอีกครั้งด้วยสถานการณ์เดิม ๆ ซึ่งรอยก็จะถูกลอบฆ่าด้วยวิธีต่าง ๆ ในแบบของเกมวนเวียนซ้ำแล้วซ้ำเล่าวนไปวนมาไม่รู้จบ จนกระทั่งเขาได้ทราบข่าวร้ายว่า เจมมา อดีตภรรยาของเขาได้เสียชีวิตลง เขาจึงต้องเริ่มต้นสืบหาเบาะแสเพิ่มเติม เพื่อค้นหาสาเหตุการตายของภรรยา สร้างสัมพันธ์กับลูกชายติดเกมที่ไม่เคยรู้ว่าเขาเป็นพ่อ และทลายลูปนรกที่ทำให้เขาตายซ้ำตายซากอยู่ทุกวี่ทุกวันให้ได้เสียที
ที่น่าประทับใจอีกอย่างคือ นอกจากแอ็กชันโหดบู๊ระห่ำอย่างกับดูเกม (ซึ่งพอมีเสียงบรรยายของพี่มาร์ก กริลโล ผมว่าแอบคล้ายคนกำลังแคสต์เกมอยู่เหมือนกันนะ 555) และมุกฮาตลกร้าย จิกกัด เสียดสี กวนเบื้องล่าง และตลกจังหวะนรกที่ร้ายมาก ๆ (หมายถึงคนเขียนบทอ่ะนะ 555) แม้ว่าตัวอย่างหนังจะทำให้เราคิดไปว่า พล็อตน่าจะไม่มีอะไรซับซ้อนไปกว่าการเล่นเกม ทำตามเควสต์ซ้ำ ๆ แล้วเรียนรู้เควสต์ในเกมให้มากขึ้นกว่าเดิม จนมาถึงจุดหนึ่งเมื่อพระเอกเรียนรู้จบกระบวนความแล้วก็ไปฆ่าบอสได้
แต่สิ่งที่หนังเรื่องนี้ทำได้ลึกและแตกฉานกว่าคือ การหยิบเอามุมมองของความเป็นเกม มาปะทะกับความเป็นคนได้อย่างลงตัวมาก ๆ ครับ ถ้าดูในหนัง แน่นอนว่า เราจะได้เห็นพระเอกได้เรียนรู้สกิลใหม่ ๆ จำตำแหน่งเควสต์และอุปสรรคเอาไว้ แล้วพอตายก็ค่อยไปดักทางใหม่ แก้ทางเกมไปเรื่อย ๆ ซึ่งมันก็เป็นการเปรียบเทียบให้เรามองเห็นความแตกต่างของตัวละครในเกม ที่มักจะทำอะไรซ้ำ ๆ ตามแต่ที่ถูกโพรแกรมมา แต่ก็ไม่ได้หลุดออกจากสิ่งที่เกิดขึ้น